วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[BSD Fanfiction] Happy Thanksgiving

Bungou Stray Dogs Fanfiction: Happy Thanksgiving
Pairing: Akutagawa Ryunosuke x Nakajima Atsushi
Genre: Romance
Rated: R
Writer: Chiyuu_ki


เดือนพฤศจิกายน
ลมเย็นของฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามาเริ่มพัดผ่านตัวเมืองอันพลุกพล่าน ห้างสรรพสินค้ารวมถึงร้านรวงตามริมถนนเริ่มประดับประดาไปด้วยแสงไฟสดใสรับกับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง
บรรยากาศดีๆที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศทำให้เมืองโยโกฮาม่าที่แสนวุ่นวายดูรื่นรมย์ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่เว้นแม้แต่องค์กรผู้ใช้พลังพิเศษที่แสนโหดเหี้ยมอย่างพอร์ทมาเฟียและสำนักงานนักสืบบุโซที่มักจะมีปัญหาให้ฟาดฟันกันอยู่บ่อยๆก็ต่างพักรบกันชั่วคราว
"วันขอบคุณพระเจ้าหรอครับ?"
เด็กหนุ่มผมเงินเงยหน้าขึ้นจากแผ่นเอกสารและสบตากับคู่สนทนา คุนิคิดะ ดอปโป ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกระดาษโน้ตที่จดรายการสิ่งที่ต้องซื้ออยู่ในมือ รายการสิ่งของนั้นยาวเหยียดผิดกับเดือนที่ผ่านๆมา
"อ่า วันขอบคุณพระเจ้า นายรู้จักใช่ไหม?"
อัตสึชิพยักหน้า วันขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึงตรงกับวันพฤหัสที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน เป็นวันเลี้ยงฉลองขอบคุณพระเจ้าที่อวยพรให้พวกเขามีความสุขทั้งกายและใจตลอดปีที่ผ่านมาและเป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะอยู่กันพร้อมหน้าและรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ถึงเขาจะมีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเกี่ยวกับวันขอบคุณพระเจ้าขณะที่เขายังอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เขาก็ยังจำได้ขึ้นใจถึงอาหารมากมายและขนมอร่อยๆในวันนั้น
"ฉันเอานี่มาให้นายก่อน เผื่อขาดเหลืออะไรจะได้รีบซื้อก่อนที่ของจะหมดซุปเปอร์" อัตสึชิรับกระดาษโน้ตมาจากมืออีกฝ่ายพร้อมพับเก็บลงในกระเป๋ากางเกง
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เด็กหนุ่มเก็บของและร่ำลาทุกคนอย่างไม่รีบร้อน เสียงของคุนิคิดะดังขึ้นย้ำให้เขาจัดการซื้อของให้เรียบร้อยซะภายในอาทิตย์นี้
อัตสึชิเดินออกจากอาคารอิฐแดงและทอดน่องไปตามถนน เขากระชับโค้ทสีเข้มตัวยาวและซุกมือลงไปในกระเป๋าเสื้อเมื่อลมเย็นๆพัดผ่านมา เด็กหนุ่มเดินผ่านหน้าซุปเปอร์เจ้าประจำที่มักมาซื้อของลดราคากับคุนิคิดะไปเมื่อเห็นคนมากมายกำลังยืนออกันอยู่ตรงทางเข้าเพื่อแย่งกันซื้อผลไม้สดๆที่เพิ่งถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ
"อืม.. เอาไว้ค่อยซื้อพรุ่งนี้ก็แล้วกัน" เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้น เด็กหนุ่มผมเงินก็เดินตรงกลับที่พักของตัวเอง หรือจะให้เรียกอีกอย่างคือบ้านหลังใหม่ที่เขาเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่เมื่อไม่นานมานี้
เขาไขกุญแจเข้าไปด้านในและถอดเสื้อโค้ทสีเข้มแขวนไว้ที่ราวข้างประตู ในห้องเงียบสนิท อัตสึชิทรุดกายนั่งลงบนโซฟาหน้าทีวีพลางนึกถึงวันขอบคุณพระเจ้าที่กำลังใกล้เข้ามา
ทำไมถึงต้องขอบคุณพระเจ้า
ขอบคุณสำหรับทุกวันที่ได้มีชีวิตอยู่
ขอบคุณสำหรับอาหารที่ได้กินในแต่ละมื้อ
แค่นั้นล่ะมั้ง?
ตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยจริงจังกับเทศกาลนี้เท่าไหร่ คงเป็นเพราะชีวิตวัยเด็กที่ไม่ได้ดีนักทำให้เขาไม่เคยนึกขอบคุณพระเจ้าเลยซักครั้ง ทั้งถูกแกล้ง ถูกใส่ร้ายและถูกเหยียดหยามจากผู้คนรอบตัว แม้แต่ในวันขอบคุณพระเจ้า ขนมอร่อยๆที่คนอื่นได้กินกันอย่างอิ่มหนำ เขากลับถูกแย่งไปจนเหลือเพียงครึ่งชิ้น
เด็กหนุ่มถอนหายใจ เขาหยิบหมอนใบใหญ่ขึ้นมากอดและหลับตาลง ความคิดที่โลดแล่นอยู่ในหัวทำให้เขาไม่รู้สึกถึงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
"ทำอะไรอยู่"
เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังพร้อมลมอุ่นๆที่เป่าลงรดข้างใบหู อัตสึชิสะดุ้งเฮือกพร้อมหันกลับไปหาเด็กหนุ่มผมดำที่เดินเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
"กลับมาแล้วหรอ อาคุตะกาวะ"
"อ่า" อีกฝ่ายส่งเสียงตอบรับเบาๆก่อนเดินอ้อมมานั่งบนโซฟา อัตสึชิมองเด็กหนุ่มผมดำที่วันนี้ดูเหมือนจะเสร็จภารกิจเร็วกว่าปกติก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
อาคุตะกาวะ ริวโนะสึเกะ ศัตรูคู่ปรับที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนรักของเขาอย่างเต็มตัว เด็กหนุ่มผมดำยกเท้าขึ้นพาดโต๊ะตัวเตี้ยหน้าโทรทัศน์ด้วยท่าทีผ่อนคลายก่อนเหลือบสายตาสบกับนัยน์ตาสดใสที่มองมา
"มีอะไร?"
"อ่ะ.. เปล่าหรอก ฉันแค่กำลังนึกถึงเรื่องเก่าๆอยู่น่ะ" อัตสึชิยกมือขึ้นโบกไปมาพร้อมยกยิ้มแห้งๆ "จะว่าไป.. ที่สำนักงานมีจัดงานวันขอบคุณพระเจ้าด้วยนะ วันนั้นนายจะกลับมากินข้าวพร้อมกันที่บ้านรึเปล่า ฉันจะได้ซื้อของเพิ่ม"
"วันขอบคุณพระเจ้า..?" อาคุตะกาวะเลิกคิ้วขึ้น แววตาแห่งความแปลกใจสะท้อนอยู่ในลูกแก้วสีดำขลับ "ไร้สาระ.. ของแบบนั้นไม่จำเป็น"
อัตสึชิหัวเราะแห้งๆออกมาเมื่อได้ยินคำตอบที่ตนคิดเอาไว้ "นั่นสินะ สำหรับฉัน เทศกาลแบบนี้ก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แต่คุนิคิดะซังสั่งให้ซื้อของเยอะแยะแบบนี้ทุกคนคงจะตั้งตารอกันน่าดู.. เอ๋"
เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบเมื่อปลายนิ้วเย็นๆสัมผัสเข้าที่แก้มของตน อาคุตะกาวะขยับเข้ามาใกล้พร้อมเสียงทุ้มที่ถูกเปล่งออกมา
"เป็นอะไร ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น"
อัตสึชินิ่งไปด้วยความแปลกใจ เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขามีสีหน้าอย่างไร แต่ความคลางแคลงใจที่ปรากฏอยู่ในแววตาของอีกฝ่ายก็ทำให้เขาเกิดใจแป้วขึ้นมา
"ฉะ.. ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย นายคิดมากไปแล้วล่ะ"
แต่ดูเหมือนว่าทักษะการโกหกของเขาก็ยังคงห่วยแตกเช่นเคย เด็กหนุ่มผมดำถอนหายใจพร้อมดึงอีกฝ่ายเข้ามา ฝ่ามือบังคับให้ศีรษะทุยแนบลงบนไหล่ของตัวเอง
"ฉันรู้ว่านายเป็น อย่าโกหก" อาคุตะกาวะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุๆเรียกเสียงหัวเราะแห้งๆจากเด็กหนุ่มผมเงิน
"ฉันแค่กำลังนึกถึงวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อตอนที่ฉันยังอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะ ก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องー"
ยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็แนบสนิทลงบนกลีบปากนิ่ม อัตสึชิเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจก่อนที่อาคุตะกาวะจะยิ่งบดเบียดริมฝีปากเข้าหาจนริมฝีปากของเขาเผยอขึ้น เรียวลิ้นอุ่นถูกส่งเข้ามา กระหวัดเกี่ยวกับลิ้นของเขาด้วยความโหยหา ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมาทำให้อัตสึชิค่อยๆปิดเปลือกตาลงและจมลงสู่ความรู้สึกที่เขาไม่สามารถอธิบายได้
จูบของอาคุตะกาวะมักร้อนแรง แต่บางครั้งก็กลับนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับจะปลอบประโลมสิ่งที่รบกวนจิตใจของเขาอยู่นั้นให้สลายไป ก่อนที่อัตสึชิจะรู้สึกถึงฝ่ามือของอีกฝ่ายที่แนบลงมาข้างลำตัว ลูบผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาว ก่อนที่กระดุมจะถูกปลดออกทีละเม็ด
เด็กหนุ่มผมดำละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ใบหน้าของคนใบอ้อมกอดเริ่มขึ้นสีเรื่อ ริมฝีปากที่เจ่อขึ้นจากการจูบเรียกรอยยิ้มปรากฏขึ้นใบหน้าคมคาย เขาดันอีกฝ่ายให้เอนกายลงกับโซฟาและแทรกหัวเข่าลงที่ระหว่างเรียวขาทั้งสองข้างของร่างด้านล่าง
เสื้อเชิ้ตถูกถอดออกไป ผิวขาวของอีกฝ่ายปรากฏแก่สายตาของอาคุตะกาวะ ความรู้สึกพุ่งพล่านคุกรุ่นขึ้นทุกครั้งเมื่อเขาได้เห็นผิวกายเปลือยเปล่าของคนตรงหน้า ความอบอุ่นจากร่างของอัตสึชิที่ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สัมผัส
"อาคุตะกาวะ.." เด็กหนุ่มผมเงินครางเสียงแผ่วเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายแนบลงมาบนต้นคอ คมฟันที่ขบเบาๆทำเอาเขาสะดุ้งเฮือกก่อนที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายจะไล่ลงไปยังเบื้องล่างและถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานร่างทั้งร่างของอัตสึชิก็เปลือยเปล่า เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นและเบือนใบหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมา อาคุตะกาวะไล้ปลายนิ้วไปยังผิวขาว ฟอนเฟ้นต้นขาของอีกฝ่ายด้วยฝ่ามือพร้อมริมฝีปากที่ขบเม้มฝากรอยแดงไว้ตามแผ่นอกบาง
"อ.. อ่ะ.." อัตสึชิหลับตาแน่น ปล่อยให้อีกฝ่ายชักนำความรู้สึกของตนให้ลอยออกไป ลมหายใจร้อนถูกปล่อยออกมาเพื่อคลายความประหม่าที่เกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเฮือก ลาดไหล่บางสั่นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือกร้านที่กำลังมอบสัมผัสวามหวามให้กับส่วนอ่อนไหวของตน
"อ้าปากซะ" อาคุตะกาวะเอ่ยสั้นๆ อัตสึชิอ้าปากขึ้นก่อนที่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายจะแทรกเข้ามา
เด็กหนุ่มผมเงินสำลักเล็กน้อยเพราะเรียวนิ้วที่อยู่ในปากแต่เขาก็ดูดดุนปลายนิ้วที่แทรกเข้ามาอย่างว่าง่าย ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการของอาคุตะกาวะ
อาคุตะกาวะถอนนิ้วออกจากโพรงปากอุ่น ฝ่ามืออีกข้างที่กำลังหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวของอัตสึชิยังคงทำหน้าที่อย่างไม่บกพร่อง เด็กหนุ่มใต้อาณัติของเขาบิดเกร็ง แผ่นหลังแอ่นขึ้นจากโซฟาเมื่อความต้องการพุ่งขึ้นมาจนใกล้ถึงจุดสูงสุด
และโลกทั้งใบก็กลายเป็นสีขาว
อัตสึชิหอบหายใจถี่ นัยน์ตาสีสดปรือปรอยมองใบหน้าของคนรักที่โน้มลงมาใกล้อย่างเลื่อนลอยก่อนจะรู้สึกถึงริมฝีปากของอีกฝ่ายที่แนบจูบลงมาเบาๆ
"อ.. อืม.. " เขาครางเสียงแผ่วในลำคอขณะที่เรียวขาทั้งสองข้างถูกยกขึ้นก่อนปลายนิ้วที่เปียกชุ่มของอาคุตะกาวะจะค่อยๆแทรกเข้ามาในร่าง อัตสึชิขมวดคิ้วมุ่น ปลายนิ้วจิกเกร็งลงบนโซฟาเมื่ออีกฝ่ายพยายามแทรกนิ้วที่สองเข้ามาจนสุด ริมฝีปากบางเปล่งเสียงครางอย่างไม่ได้ศัพท์
ช่องทางอุ่นที่กำลังตอดรัดปลายนิ้วทำให้อาคุตะกาวะเริ่มหมดความอดทน เขาขยับปลายนิ้วเข้าออกให้อีกฝ่ายคุ้นชินจนช่องทางคับแน่นนั้นเริ่มคลายตัวลง
"พร้อมหรือยัง" อาคุตะกาวะเอ่ยถาม เขาใช้มืออีกข้างปลดซิปกางเกงลงจนความเป็นชายที่แข็งขืนปรากฏแก่สายตาของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มผมดำใช้ฝ่ามือรูดรั้งแท่งกายของตนก่อนจะกดส่วนปลายให้จมลงในช่องทางอุ่นโดยไม่รอให้อัตสึชิได้เอ่ยตอบ
"อัตสึชิ.. อย่าเกร็ง.." มือสังหารแห่งพอร์ตมาเฟียครางเสียงต่ำในลำคอขณะพยายามแทรกกายเข้าไปในความอ่อนนุ่มของคนรัก ฝ่ามือบางเกาะเกี่ยวรอบบ่าของเขา เสียงครางหวานดังขึ้นทันทีเมื่ออาคุตะกาวะชำแรกเข้าไปจนสุด
เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจหนักๆและปล่อยให้อีกฝ่ายได้ปรับตัวซักพักก่อนจะเริ่มขยับอีกครั้ง เขาถอนแท่งกายออกมาจนเกือบสุดความยาวและแทรกกายกลับเข้าไปใหม่ เรียกเสียงครางจากริมฝีปากบางได้เป็นอย่างดี
อาคุตะกาวะขยับกายอย่างเชื่องช้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้น เขาใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างประคองสะโพกมนเอาไว้ให้ได้องศาก่อนจะเพิ่มความหนักหน่วงในการสอดใส่ขึ้นอีกระดับ
"อะ.. อาคุตะ.. อ.."
เสียงหอบครางและเสียงเนื้อกระทบกันอันน่าอายดังก้องขึ้นในห้องเงียบ ผิวของเด็กหนุ่มทั้งสองต่างเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ อาคุตะกาวะกระแทกกายเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนเด็กหนุ่มใต้ร่างแทบสะดุดลมหายใจของตัวเอง
อัตสึชิยกแขนขึ้นคล้องรอบคอของอาคุตะกาวะ นัยน์ตาสีสดปรือปรอยมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการของอีกฝ่าย ความคิดในหัวของเขาถูกอาคุตะกาวะครอบงำจนหมดสิ้น
เพียงไม่นานเขาก็ถูกกระตุ้นเร้าจนถึงจุดสูงสุด เด็กหนุ่มผมเงินจิกปลายเท้าลงกับเบาะโซฟาและปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง ริมฝีปากบางครางเรียกชื่ออาคุตะกาวะไม่ขาดก่อนที่อีกฝ่ายจะโน้มตัวลงมากกกอดเขาเอาไว้และปลดปล่อยออกมาในช่องทางอุ่น
"อัตสึชิ.." อาคุตะกาวะเอ่ยเรียกชื่อของคนรักด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ปลายจมูกฝังลงบนต้นคอขาวพร้อมแนบจูบลงบนผิวเนียนด้วยความหลงใหล
อัตสึชิผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน เด็กหนุ่มผมเงินฟังเสียงหัวใจของพวกเขาทั้งสองคนที่เต้นประสานกันในความเงียบก่อนที่อาคุตะกาวะจะถอนแกนกายออกและขยับลงมานอนข้างๆ ใช้เรียวแขนโอบกอดเขาเอาไว้
ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นมาในหัว เรียกรอยยิ้มบางฉาบบนใบหน้าหวาน
อัตสึชิหันไปมองใบหน้าของคนรักในระยะประชิดก่อนจะพบนัยน์ตาสีดำขลับที่กำลังจ้องมองเขากลับมาเช่นกัน
บางทีวันขอบคุณพระเจ้าปีนี้ของเขาอาจจะพิเศษกว่าปีอื่นๆก็เป็นได้
.
.

3 ความคิดเห็น: