Bungou Stray Dogs Fanfiction: “Track 5” Part 2
Pairing: Soukoku
Genre: Drama
Rated: R
Writer: Chiyuu_ki
นากาฮาระ ชูยะ เหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างบานเล็กบนเครื่องบินส่วนตัวขององค์กร หลังจากที่ใช้เวลาไปกับการลิ้มรสไวน์ชั้นดีและนอนพักผ่อนไปได้ซักพัก เขาก็ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง
นี่เป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ที่เขาต้องเดินทางไปยังยุโรปในฐานะตัวแทนจากพอร์ตมาเฟีย ภารกิจในครั้งแรกที่เขาได้รับจากบอสคือการเจรจาทำธุรกิจกับองค์กรค้าอาวุธเถื่อนและกำจัดกลุ่มศัตรูที่เป็นปรปักษ์กับพันธมิตรของมาเฟีย ภารกิจในครั้งนั้นผ่านไปอย่างราบรื่น
แต่ทว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา องค์กรท้องถิ่นแห่งนี้ถูกรุกรานจากศัตรูกลุ่มเดิมอีกครั้ง ทำให้อาวุธบางส่วนที่ควรจะส่งมาถึงพวกมาเฟียถูกขโมยไป มิหนำซ้ำข้อมูลภายในบางส่วนยังรั่วไหลไปถึงศัตรู ทำให้เกิดการลอบโจมตีคลังเก็บอาวุธและการปล้นอย่างอุกอาจอยู่หลายครั้ง
และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องกลับมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง โมริทนไม่ได้กับการถูกชิงผลประโยชน์ไปอย่างซึ่งๆหน้าจึงส่งเขากลับมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉาะ
อย่างไรซะ ศัตรูก็ไม่ได้มีสมาชิกจำนวนมาก พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มกองโจรเท่านั้น หากนับลูกน้องฝีมือดีที่ติดตามตนมาแล้วคงใช้เวลาไม่นานในการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
“ถึงแล้วครับชูยะซัง”
ร่างเล็กละสายตาออกจากทิวทัศน์ด้านนอกในขณะที่เครื่องกำลังลงจอด เขาหยิบบุหรี่ขึ้นจุดสูบและลุกจากโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะเดินไปยังประตูที่กำลังเปิดออกเมื่อเครื่องจอดสนิท
ภารกิจครั้งนี้คงใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
เขาเดินลงมาตามบันไดที่ทอดลงสู่พื้นสนามบิน บรรยากาศอันวังเวงทำเอาเรียวคิ้วขมวดเป็นปมด้วยความแปลกใจ
“ทางนี้รู้รึเปล่าว่าพวกเราจะมาถึงเวลานี้น่ะ” ชูยะหันไปเอ่ยถามลูกน้องของตนที่เดินตามมา
“พวกเราส่งข้อมูลการเดินทางมายืนยันแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่รู้ครับ”
คำตอบของชายหนุ่มในสูทดำยิ่งทำให้เขาฉงนยิ่งกว่าเดิม
ข้อมูลที่ถูกส่งมาจากมาเฟียนั้นมีทั้งเวลาที่เครื่องลง เส้นทางการบินและจำนวนของสมาชิกที่เดินทางมา ยิ่งคนที่มาด้วยคือตัวเขาแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่องค์กรลิ่วล้อนี้จะไม่ส่งรถหรือตัวแทนมารอรับ
เพียงพริบตานั้น ความข้องใจของเขาก็กระจ่างทันที
ตูมมมมม!
เสียงระเบิดกึกก้องดังขึ้นจากด้านหลัง เครื่องบินลำใหญ่ที่เขาเพิ่งลงมาลุกเป็นไฟอย่างรวดเร็ว เหล่าสมาชิกมาเฟียที่ติดตามมาด้วยวิ่งหลบสะเก็ดระเบิดกันอย่างจ้าละหวั่นก่อนที่ประตูอัตโนมัติของโกดังจอดเครื่องบินจะเปิดขึ้น
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือวิ่งออกมาจากที่ซ่อนก่อนจะยกปืนไรเฟิลเล็งมาทางตน ห่ากระสุนจากกระบอกปืนพร้อมประกายไฟสว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายสิ บ้าเอ๊ย!” ชูยะใช้พลังพิเศษของตนกับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จากรถบรรทุกที่จอดอยู่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะใช้มันเป็นโล่กำบังให้กับตัวเองและลูกน้องได้อย่างฉิวเฉียด
“มาหลบหลังฉัน! อย่าเพิ่งออกไปตายแบบสุ่มสี่สุ่มห้าล่ะเจ้าพวกโง่!” เขากัดฟันกรอดเมื่อตู้คอนเทนเนอร์ที่กำลังใช้ต่างเกราะกำบังกำลังถูกระดมยิงเริ่มแตก
ในเวลาเดียวกัน ระเบิดหัวจรวดอีกลูกถูกยิงซ้ำไปที่เครื่องบินที่อยู่ด้านหลัง
เปลวไฟลุกลามไปยังคราบน้ำมันที่รั่วซึมออกมาจากตัวถัง
นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความตระหนก เบื้องหน้าของพวกเขาคือห่ากระสุน ส่วนเบื้องหลังคือซากเครื่องบินที่กำลังจะกลายสภาพไม่ต่างจากระเบิดขนาดยักษ์
ก่อนที่เขาจะได้ตัดสินใจ เปลวไฟก็ลามไปยังถังน้ำมันของเครื่องบิน
ตูมมมมม!
—สติของเขาจะดับวูบไปในทันที
“....!”
ชูยะสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกน้ำเย็นสาดใส่หน้า
นัยน์ตาสีฟ้ากระพริบถี่เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างภายรอบตัว เรียวคิ้วขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดแถวซี่โครงก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นคราบเลือดที่ซึมเลอะอยู่บนเสื้อ
แรงอัดจากระเบิดเมื่อครู่คงจะรุนแรงไม่น้อย
เขาอยู่ในโกดังขนาดใหญ่ ฝ่ามือทั้งสองข้างถูกล็อคอยู่กับกุญแจมือที่ถูกฝังลงบนโต๊ะเหล็กเบื้องหน้า ดวงไฟที่ถูกส่องลงมาจากบนหัวทำให้สภาพตอนนี้ของเขาไม่ต่างอะไรกับนักโทษที่รอการสอบปากคำ
“นากาฮาระ ชูยะ สมาชิกคนสำคัญจากพอร์ตมาเฟีย ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้ง”
ชูยะเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง
ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคน ผมสีน้ำตาลเหลือบทองถูกหวีแสกไปด้านข้าง ทักซิโด้สีดำขลับสะบัดปลิวทุกครั้งที่เขาขยับตัว
—วิคเตอร์ อูโก้ ผู้นำของกลุ่มพันธมิตรแห่งเอบีซี (Les Amis de l'ABC)
ชูยะรู้จักชายตรงหน้าเป็นอย่างดี เขาคือผู้นำของกลุ่มคณะปฏิวัติที่กำลังมีชื่อเสียงโจษจัน และแน่นอนว่าเขาคือผู้ใช้พลังพิเศษที่มีฝีมือพอตัว
ภารกิจของเขาเริ่มยุ่งยากขึ้นมาซะแล้ว
“ไง”
น้ำเสียงที่ถูกเอ่ยออกมาไร้ซึ่งความเป็นมิตรโดยสิ้นเชิง
“ครั้งนี้ไม่มีผู้ใช้พลังพิเศษคนอื่นจากพอร์ตมาเฟียติดตามมาด้วยงั้นหรอ”
“ฉันมาแค่คนเดียว ในรายงานที่แกขโมยไปก็มีเขียนอยู่แล้วไม่ใช่รึไง”
นัยน์ตาสีฟ้ามองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง เขาไม่คิดมาก่อนว่ากลุ่มกองโจรที่เขาได้กำจัดไปในคราวที่แล้วเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของกลุ่มคณะปฏิวัติ บอสเองก็คงคาดไม่ถึง ไม่อย่างนั้นคงจะส่งกำลังสนับสนุนมากับเขาตั้งแต่แรกเป็นแน่
วิคเตอร์ไม่ได้ไม่ท่าทีโกรธเคืองกับคำตอบยียวนที่ชูยะเอ่ยออกมา เขาหยิบเอกสารออกมาก่อนจะมองมาที่คนตัวเล็กด้วยสายตาเรียบเฉย
“ยอดผู้เสียชีวิต 63 คน บาดเจ็บร้อยคนและสูญหายอีกนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนั่นเป็นฝีมือของแก” อีกฝ่ายโยนกระดาษลงบนโต๊ะ น้ำเสียงและสายตาที่ราบเรียบเมื่อครู่หายไปเหลือเพียงความเกรี้ยวกราด
“แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวของผู้ใช้พลังพิเศษจากพอร์ตมาเฟีย หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”
วิคเตอร์หัวเราะออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“แกจะต้องชดใช้กับทุกอย่างที่แกทำไป ทุกอย่างที่แกพรากไป!!”
การโจมตีครั้งก่อนของพอร์ตมาเฟียสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ไม่เฉพาะโกดังเก็บอาวุธ แต่ยังรวมถึงค่ายพักของกลุ่มคณะปฏิวัติ
นั่นรวมถึงครอบครัวของวิคเตอร์ด้วย
ชูยะนิ่งลงและประเมินสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
ถึงข่าวเรื่องพวกเขาถูกลอบโจมตีไปถึงหูบอส แต่เขาก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่าโมริจะยอมส่งคนมาช่วยหรือไม่ เพราะข้อมูลการสื่อสารภายในของพอร์ตมาเฟียที่รั่วไหลออกไปก่อนหน้าทำให้ศัตรูนำพวกเขาอยู่หนึ่งก้าว ถ้าหากโมริคิดว่าการส่งสมาชิกคนอื่นมาช่วยเป็นความเสี่ยงที่เปล่าประโยชน์ เขาคงจะถูกตัดหางปล่อยวัดทันที
ตอนนี้เขาต้องคิดหาทางรอดออกไปด้วยตัวเอง
สีหน้าติดรำคาญปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของชูยะ “แกคิดว่าฉันเป็นพวกกระจอกที่จะถูกจับล็อคไว้ได้ง่ายๆแบบนี้รึไง”
ชูยะใช้พลังแรงโน้มถ่วงที่ฝ่ามือของตนบีบโซ่เหล็กที่พันธนาการเขาอยู่จนเริ่มแตก แต่เสียงของวิคเตอร์ก็ทำให้เขาต้องชะงักไป
“ถ้าแกจะทำอย่างนั้น ฉันขอแลกกับชีวิตของสมาชิกคนอื่นๆแล้วกัน”
สิ้นเสียงของวิคเตอร์ ไฟในโกดังร้างทั้งหมดก็ถูกเปิดขึ้น
สมาชิกมาเฟียอีกหลายชีวิตที่ติดตามมาพร้อมกับชูยะถูกจับล่ามโซ่อยู่ตรงกำแพงด้านหน้า วิคเตอร์เดินไปหาพวกเขา จิตสังหารค่อยๆแผ่ออกมาจากทุกฝีก้าวของชายในชุดทักซิโด้
วิคเตอร์ยกมือขึ้นที่ระดับอกของชายตรงหน้า ก่อนที่ไอพลังงานสีขาวจะถูกสูบออกมาจากสมาชิกมาเฟียผู้โชคร้าย นัยน์ตาของเขาเบิกโพลง ใบหน้าเริ่มซูบตอบและดำคล้ำลงอย่างรวดเร็ว
ขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายตะเกียกตะกายราวกับกำลังขาดอากาศหายใจ ริมฝีปากที่อ้ากว้างไม่มีแม้แต่เสียงที่ถูกเปล่งออกมา
ไอพลังงานสีขาวหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของวิคเตอร์
พลังงานชีวิต
พลังพิเศษ —เหยื่ออธรรม (The Victims and The Dispossessed) พลังที่สามารถดูดพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเพื่อเปลี่ยนมาเป็นพลังของตัวเอง
สมาชิกมาเฟียคนนั้นแน่นิ่งไป
ชูยะหยุดใช้พลังของตนทันที
“แกจะต้องทรมาณ” วิคเตอร์เดินกลับมาหาชูยะ รอยยิ้มน่าขนลุกปรากฎขึ้นบนริมฝีปากของเขา
ฝ่ามือเล็กใต้ถุงมือสีดำกำแน่นด้วยความหงุดหงิด
วิคเตอร์หยิบขวดแก้วขนาดเล็กขึ้นมาให้ชูยะเห็น “นี่คือยาชา ฉันผสมมันกับยาที่ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของแกอ่อนแรง”
ถุงมือสีดำถูกถอดออก ปลายเข็มขนาดเล็กแทงลงมาบนผิว น้ำสีใสถูกฉีดเข้าใส่ฝ่ามือทั้งสองข้างของชูยะ
คนตัวเล็กขบฟันแน่นพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยความเกรี้ยวกราด เขาควรจะจบเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่ต้องดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะดาไซ
ยาที่ถูกใช้ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว เขาแทบไม่รู้สึกถึงฝ่ามือของตัวเอง แม้แต่การขยับมือเพื่อขัดขืนก็ไม่สามารถทำได้
วิคเตอร์เผยรอยยิ้มพอใจเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย
แท่งโลหะปลายแหลมถูกดึงออกมาจากซองหนัง เขาจรดมันลงบนปลายนิ้วของชูยะและแทงมันเข้ามาใต้เล็บ ก่อนที่เขาจะใช้แท่งโลหะจัดการกับฝ่ามืออีกข้างของชูยะโดยวิธีเดียวกัน
นัยน์ตาสีฟ้าปรายมองนิ้วมือของตนที่มีแท่งโลหะเสียบคาอยู่ เขาไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
“ตอนนี้แกจะยังไม่รู้สึกอะไร แต่อีกซักพักยาก็จะหมดฤทธิ์..” วิคเตอร์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองมายังเขาด้วยท่าทีสบายๆ
“จงลิ้มรสความเจ็บปวดซะ นากาฮาระ ชูยะ”
Writer’s Talk
สวัสดีค่ะ ในที่สุดเราก็เจอกับตัวร้ายประจำฟิคเรื่องนี้แล้ว วิคเตอร์ อูโก้นั่นเอง! เขาเป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศสที่โด่งดังมากๆ เขียนวรรณกรรมระดับโลกเอาไว้หลายเรื่อง ทั้งนิยายเรื่องสั้น เรื่องยาว บทกวี แต่เรื่องที่เราประทับใจที่สุดก็คือ Les Misérables นี่ล่ะค่ะ
ชื่อพลังของวิคเตอร์ The Victims and The Dispossessed คือชื่อเรื่อง Les Misérables ที่นักแปลชาวอังกฤษใช้ค่ะ เนื้อเรื่องคร่าวๆจะเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันในสังคมในยุคของการปฏิวัติฝรั่งเศส ส่วนกลุ่มพันธมิตรแห่งเอบีซี (Les Amis de l'ABC) ก็เป็นกลุ่มนักปฏิวัติที่อิงมาจากในเรื่องเช่นกัน
ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านกันนะคะ ( ゚▽゚)/
ชูยะะะะะะฮื้อออออออออ อย่าเป็นอะไรนะ TwT
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเมื่อไหร่จะมาต่อคะ
ตอบลบมาต่อมั๊ยอ่าาาา ยั่กอ่านนน 😭
ตอบลบ