วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

[BSD One-shot FanFiction] Red

Bungou Stray Dogs Fanfiction: Red
Pairing: Soukoku
Genre: Romance
Rated: PG
Writer: Chiyuu_ki


Loving him is like driving a new Maserati down a dead end street
เขาน่าหลงใหล น่าค้นหา มีสเน่ห์เกินกว่าที่ผมจะต้านทานไหว ตั้งแต่วันนั้นที่เราพบกัน มันไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่ผมจะเลิกคิดถึงเขา เส้นผมสีส้มสว่างกับนัยน์สีฟ้าที่สุกสกาวราวกับอัญมณีล้ำค่า มันช่างติดตรึงในความคิดของผม


Faster than the wind
Passionate as sin, ended so suddenly
เขาเคยเป็นของผม เราเคยเป็นคนรักกัน ความสัมพันธ์แสนหวานเมื่อตอนที่เรายังเป็นนักศึกษา ก่อนที่เราทั้งคู่จะเข้ามาในวงการมายา ด้วยหน้ากากที่ต้องสวมและภาระหน้าที่ของพวกเรา ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราจบลงอย่างไม่ค่อยสวยนัก


Loving him is like trying to change your mind
Once you’re already flying through the free fall
ผมไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกหลังจากที่เราแยกทางกันครั้งนั้น แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ปราณีผมซักเท่าไหร่เมื่อโปรดิวเซอร์ส่งเขามาแคสติ้งในภาพยนต์เรื่องใหม่ที่ผมเป็นผู้กำกับ ผมไม่มีทางลืมว่าตอนนั้นผมดีใจแทบบ้าที่ได้เจอเขาอีกครั้ง


Like the colors in autumn
So bright just before they lose it all
แต่มันก็ไม่ได้น่าดีใจอย่างที่ผมคิด เขาถูกวงการมายาเจียระไนและชโลมสีทับจนแทบจะกลายเป็นคนใหม่ สำหรับเขาแล้ว ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน ถึงผมจะได้เจอเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เราก็ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันมากนัก ผมเฝ้ามองเขาผ่านหน้าจอและเลนส์กล้อง เฝ้ามองเขาที่สวมหน้ากาก แต่งแต้มสีสันให้กับโลกมายาจนได้รับความรักล้นหลามจากทุกคนๆที่เขาทำงานด้วย


Losing him was blue like I’ve never known
          Missing him was dark grey all alone
ผมยังคิดถึงเขาอยู่ตลอดแม้ว่าเราจะเลิกลากันไปแล้ว การกลับมาเจอกันอีกครั้งของเราทำให้ผมหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เขาที่อยู่หน้าผมตอนนี้ช่างแตกต่างจากเดิมมากเหลือเกิน


Forgetting him was like trying to know somebody you've never met
But loving him was red
แต่ก็ถือว่าผมยังพอมีโชคอยู่บ้าง เมื่อวันนึงหลังเลิกกองเขาเดินเข้ามาหาผมและส่งยิ้มให้ ก่อนจะชวนผมไปที่คอนโดของเขา เราพูดคุยกันทั้งคืน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เขาเป็นตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นทำให้ความคิดของผมที่จะปล่อยมือจากเขาหายไปโดยสิ้นเชิง
ตั้งแต่วันนั้นมันทำให้ผมหลงรักเขาอีกครั้ง


นากาฮาระ ชูยะ โดดเด่นอยู่บนพรมแดง ท่ามกลางแสงแฟลชจากเหล่าช่างภาพและนักข่าวมากมายที่มาร่วมงานเทศกาลภาพยนต์นานาชาติที่ถูกจัดขึ้น ร่างเล็กในชุดทักซิโด้สีขาวโปรยยิ้มแจกผู้ร่วมงานนับร้อยก่อนเดินตรงเข้าไปในโถงงานเลี้ยง
ผมมองเขาที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ผ่านเลนส์กล้องก่อนนิ้วของผมจะกดชัตเตอร์บันทึกภาพนั้นเอาไว้ เขาเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะและส่งยิ้มให้ผม
“ว่าไงชูยะ~ เรตติ้งพุ่งไม่ตกเลยนะ” ผมเอ่ยทักทายเขาทันที ชูยะคลี่ยิ้มเล็กน้อย ผมเฝ้ามองใบหน้าที่ติดหวานของเขาด้วยความคิดถึง
“ถ้าไม่ได้เป็นเพราะนาย ฉันคงไม่มีวันนี้” ริมฝีปากของเขายังคงคลี่ยิ้ม ก่อนจะรับแก้วน้ำสีอำพันที่บริกรส่งมาให้
“แด่ความสำเร็จของนาย” เขายื่นแก้วมาหน้าผม ผมยกแก้วของตัวเองขึ้นและชนตามมารยาท ก่อนจะดื่มด่ำกับรสกลมกล่อมของแอลกอฮอล์ที่ไหลลงคอ
“อย่าลืมมาถ่ายรูปกับฉันตอนเลิกงานล่ะดาไซ” เขาเอื้อมมือมาผลักศรีษะของผมเบาๆด้วยความคุ้นเคยก่อนเดินจากไป
ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ เสียงของพิธีกรประจำงานก็ดังขึ้น เรียกทุกความสนใจไปยังหน้าเวที ม่านสีกำมะหยี่สีแดงและโคมระย้าขนาดยักษ์ช่วยเสริมความหรูหราให้กับงานครั้งนี้เป็นอย่างมาก เหล่าคนในวงการบันเทิงเริ่มทยอยเดินเข้างานมา ชุดราตรีราคาแพงและเครื่องประดับสุดหรูจากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมารวมกันไว้ที่นี่
และแล้วช่วงสำคัญของงานก็มาถึง การประกาศรางวัลยอดเยี่ยมในสาขาต่างๆ ชื่อของชูยะถูกประกาศขึ้นอย่างไม่ต้องลุ้นให้มากความ ผมมองเขาเดินขึ้นเวทีไปรับรางวัลด้วยรอยยิ้ม แสงแฟลชที่สว่างวาบทำให้เขาดูโดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาเดินลงเวทีไป จากนั้นชื่อของผมก็ถูกขานขึ้น ผมเดินขึ้นเวทีไปรับรางวัลท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของเพื่อนร่วมงาน ภาพยนต์ของผมได้รับรางวัลในปีนี้ ภาพยนต์ที่มีชูยะรับบทแสดงนำ ผมมองลงไปยังด้านหน้าเวที ส่งยิ้มตอบให้กับเขาด้วยความภาคภูมิใจ
ผมอยากบอกเขาเหลือเกินว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของผม
“ยินดีด้วยนะครับคุณผู้กำกับ” กลุ่มเพื่อนและทีมงานหลายชีวิตรี่เข้ามาหาผมทันทีที่ผมลงจากเวที ผมได้แต่ยิ้มตอบพวกนั้นไป ตอนนี้ผมอยากเห็นหน้าเขาใกล้ๆชะมัด
นายหายไปไหนของนายกันนะชูยะ
ผมชะเง้อมองหาเขาจนเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้
"เจ๋งมากดาไซ" ผมรู้สึกถึงแขนของเขาที่โอบรอบคอผม กลิ่นน้ำหอมของเขาช่างเป็นเอกลัษณ์
ผมยกยิ้มบางๆก่อนเอื้อมมือไปยีกลุ่มผมนิ่ม
“เพราะพวกเราทุกคนต่างหากล่ะ” ผมเอ่ยตอบเขาไป เรียกรอยยิ้มให้ปรากฎบนใบหน้าหวาน
“คืนนี้พวกเราจะไปต่อกันใช่ไหม หนังของเราได้รางวัลตั้งหลายสาขา แบบนี้มันต้องฉลองกันให้เมาพับซะหน่อยแล้วล่ะ” เขาเอ่ยถามคนอื่นๆ นิสัยแย่ๆของเขายังแก้ไม่หายซะทีสินะ ผมได้แค่นหัวเราะให้กับเหล่ามนุษย์กลางคืนทั้งหลายในกองถ่ายของเราที่ต่างเฮตอบรับคำชวนของชูยะเป็นเสียงเดียวกัน



ลีมูซีนสีดำขลับจอดนิ่งอยู่หน้าไนท์คลับแห่งหนึ่งในย่านสถานบันเทิงชื่อดัง
ภายในร้านเนืองแน่นไปด้วยเหล่าบรรดานักท่องราตรีที่ออกมาสังสรรค์กันเต็มพื้นที่ ที่นี่เป็นสถานบันเทิงชั้นดีที่รวมวัยรุ่นหนุ่มสาวผู้หลงใหลเสียงเพลงและสีสันยามค่ำคีน บรรยากาศมืดสลัวภายในร้านถูกกลบด้วยแสงไฟเลเซอร์และเสียงเพลงเทคโนแดนซ์ให้ได้ตื่นตาตื่นใจ
ผมนั่งอยู่ในโซนวีไอพีของร้าน กวาดสายตาไปยังฟลอร์เต้นรำเบื้องหน้า แสงเลเซอร์สว่างวูบวาบเรียกเอาหนุ่มสาวที่เริ่มมัวเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ออกมาโชว์สเต็ปของตัวเองกันอย่างคึกคัก ผมมองชูยะที่กำลังยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มก่อนจะลุกออกไปเต้นกับเพื่อนคนอื่นๆ


Touching him is like realizing all you ever wanted
was right there in front of you
ผมสะบัดใบหน้าสองสามทีให้หายจากอาการมึนหัว ก่อนลุกตามเขาไป ผมเห็นชูยะกำลังวาดลวดลายอยู่กลางแสงไฟ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังออกสเต็ปแข่งกับเสียงเพลง แสงเลเซอร์ที่สาดอยู่ทำให้ผมมึนหัวมากขึ้น ร่างเล็กเดินเข้ามาหาเมื่อเขาเห็นผม


Memorizing him was as easy as knowing all the words to your old favourite song
มือของเราสัมผัสกัน ผมดึงชูยะเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดเอาไว้ ผมจับข้อมือของเขาไว้แน่น ชูยะเบะปากใส่ผมเมื่อเห็นว่าผมยังคงไม่ยอมปล่อยเขา


Fighting with him was like trying to solve a crossword
and realizing there’s no right answer
ผมยื้อร่างของเขาเอาไว้ก่อนจรดหน้าผากลงไปใกล้ เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นเมื่อมีคนเริ่มจำได้ว่าเราเป็นใคร ชูยะขืนตัวออกจากอ้อมแขนของผมแต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น


Regretting him was like wishing you never found out
that love could be that strong
ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น พลางมองใบหน้าเขาใกล้ๆ ใบหน้าหวานของเขาเริ่มงอเมื่อโดนผมขัดใจ ผมยกยิ้มให้เขา
ผมคิดถึงเขามาก
ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน


Remembering him comes in flashbacks and echoes
Tell myself it’s time now, gotta let go
But moving on from him is impossible
When I still see it all in my head
We're burning red
ผมสบตาเขาอยู่อย่างนั้น ราวกับว่าอยากจะให้ความคิดถึงของผมส่งไปถึงเขา ให้เขารู้ว่าผมยังรักเขามากแค่ไหน ตัวตนของเขายังคงอยู่ในความทรงจำของผม ผมแนบริมฝีปากลงบนหน้าผากของเขาและไล่ลงมาตามใบหน้า แก้มของเขากำลังขึ้นสีเรื่อ ผมโอบกอดชูยะแน่น ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน


Oh, losing him was blue like I’d never known
Missing him was dark grey all alone
Forgetting him was like trying to know somebody you've never met
Cause loving him was red
ความทรงจำตอนที่เราเลิกกันยังคงเด่นชัด คำว่าเวลาจะช่วยเยียวยามันใช้ไม่ได้เลยสำหรับผม ในเมื่อผมยังคงต้องเจอเขาทุกวันและทำงานด้วยกันแทบจะตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ในอ้อมกอดของผมเหมือนตอนที่เรายังเป็นคนรักกัน ผมรู้สึกถึงแขนของเขาที่กำลังกอดตอบผม ผมละริมฝีปากออกมาก่อนจะสบนัยน์ตาสีฟ้าสดใสของเขาอีกครั้งและคลี่ยิ้มบางให้


And that's why he's spinning round in my head
Comes back to me burning red
ผมแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา
และเสียงดนตรีรอบตัวก็เหมือนจะหายไปกับสัมผัสตรงหน้า


...Cause love was like driving a new Maserati down a dead end street...

1 ความคิดเห็น: