วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[BSD Trans] Dazai Osamu and the dark era: Chapter 1 [2/4 แปลไทย]

คณะประพันธกรจรจัด
เล่มที่ 2: Dazai Osamu and The dark era (Chapter 1, 2/4)
ผู้ประพันธ์: Asagiri Kafka
ภาพประกอบ: Harukawa35
แปลไทย : Chiyuu_ki
ทรานส์อิ้ง : Part 3 Part 4
← Previous Chapter 1 part 1/4


ในเวลาเดียวกันนั้น ดาไซอยู่ที่ท่าเรือ
หากเดินจากท่าเรือโยโกฮาม่าเลียบมาตามแนวชายฝั่งประมาณสิบนาทีจะมาถึงเขตโกดังเก็บสินค้าที่เต็มไปด้วยผู้คน เรือขนาดเล็กที่ตัวเลขข้างเรือเริ่มจาง รถที่ถูกขโมยมาจากทั่วโลกหรือแม้แต่เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้ทำระเบิดถูกนำมาตั้งไว้ที่นี่ หากไม่ได้รับอนุญาต ทั้งตำรวจหรือประชาชนธรรมดาต่างไม่สามารถเข้ามาได้ พื้นที่แห่งนี้ถูกบริหารด้วยองค์กรนอกกฏหมายหลายองค์กรโดยมีพอร์ทมาเฟียเป็นผู้ปกครองอีกทีหนึ่ง
เมื่อเช้านี้มีศพสามศพถูกพบอยู่บนตลิ่ง
“รีบไปรายงานซะ แล้วก็อย่าให้รู้ไปถึงตำรวจ รีบเรียกหน่วยเก็บกวาดมาจัดการศพพวกนี้ด้วย”
ชายในชุดดำหลายคนทำงานอย่างเงียบๆในบริเวณที่พบศพ พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกของพอร์ทมาเฟีย สมาชิกชั้นหางแถวที่คอยรับฟังคำสั่งและปฎิบัติตามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
และนั่นมีอยู่สองสาเหตุ อย่างแรกคือศพที่พวกเขากำลังจัดการคือเพื่อนร่วมงานของเขาหรือสมาชิกของพอร์ทมาเฟียนั่นเอง และอย่างที่สอง ถ้าพิจารณาจากเวลาและความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว หนึ่งในห้าของผู้บริหารจะต้องมาลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างแน่นอน
“ไปตรวจซะว่าเจ้าพวกนี้มีครอบครัวรึเปล่า ถ้าเกิดมี–” ชายคนนั้นเงียบไปซักพัก “ให้ฉันเป็นคนอธิบายเอง
ชายที่กำลังสั่งการอยู่มีเส้นผมสีขาว ในปากคาบซิก้าร์ สวมโค้ทและสูทสีดำ ทั้งหมดนี้ทำให้เขามีกลิ่นอายของสุภาพบุรุษลอยอยู่รอบตัว ฮิโรสึ ริวโร หนึ่งในผู้อาวุโสของพอร์ทมาเฟีย
เขาหยิบนาฬิกาพกเรือนทองออกมาดูเวลา “ผู้บริหารจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซะ”
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน~” ยังไม่ทันที่ฮิโรสึออกคำสั่งจบ เสียงทักทายก็ลอยออกมาจากกลุ่มคน เหล่าสมาชิกได้แต่มองหน้ากันไปมาด้วยความประหม่า
ชายหนุ่มที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินวัยรุ่นปรากฏตัวขึ้น ทรงผมยุ่งเหยิง ทั้งคอและแขนถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล ดาไซ โอซามุ หนึ่งในผู้บริหารของพอร์ทมาเฟียเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุ
ฮิโรสึเก็บมวนซิก้าร์เข้ากล่องในกระเป๋าเสื้อ สมาชิกทุกคนต่างยกมือขึ้นแนบอก แสดงความเคารพขั้นสูงสุด
“เดี๋ยวนะ– ฉันกำลังอยู่ในด่านที่ยากที่สุดแล้วล่ะ ให้ตายสิ โดนแซงแล้ว เอานี่ไปกินซะ! ชิ น่าจะหลบได้แล้วให้ตาย!” ดาไซเล่นเกมกดขณะที่เขาเดินเข้ามา สมาธิจดจ่ออยู่กับจอสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเสียจนถ้าหากมีเนินอยู่ตรงหน้า หัวของเขาคงทิ่มพื้นเป็นอย่างแรก
“อา–– ถามจริง! ไม่มีทางที่จะชนะเจ้านี่เลยรึไงนะ กว่าจะผ่านทางโค้งตรงนั้นฉันก็โดนแซงไปอีกรอบแล้ว!
“ดาไซซัง” ฮิโรสึเอ่ยทักดาไซด้วยน้ำเสียงติดจะหวั่นเกรง “ผมขอโทษกับปัญหาที่เกิดขึ้นนะครับ เหยื่อทั้งหมดเป็นผู้รักษาความปลอดภัยของคลังเก็บอาวุธของเรา ส่วนเรื่องรายละเอียด
“จะว่าไป มันก็นานแล้วนะที่มีคนกล้าบุกมายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนนี้ของเรา พวกเขาถูกฆ่าได้ยังไงน่ะ” ดาไซเอ่ยปากถามขณะจดจ่ออยู่กับเกมในมือ
“ทั้งสามคนถูกฆ่าด้วยปืน 9 มม. ประมาณ 10-20 นัดและตายทันที อาวุธปืนในคลังถูกขโมยไป พวกเราสูญเสีย ปืนออโต้ 40 กระบอก, ปืนสั้น 8 กระบอก, ไรเฟิล 2 กระบอก, ระเบิดมือ 80 ลูกและดินปืน 18 กิโลกรัม ที่น่าเป็นห่วงก็คือระบบรักษาความปลอดภัยของเราถูกปลดล็อคด้วยรหัสที่ถูกต้อง ดูเหมือนว่าความลับของเราจะรั่วไหล ตอนนี้กำลังสืบสวนอยู่ครับ”
“ฉันจะไปดูซักหน่อย ฝากนี่ด้วยล่ะ” ดาไซยัดเกมกดลงบนมือของฮิโรสึและเดินจากไป ปล่อยให้ชายวัยกลางคนอยู่ในความงงงวย
“อย่าลืมกดเร่งความเร็วพอถึงเส้นชัยด้วยนะ เอาล่ะ ว่าแต่ศพอยู่ที่ไหน”
“ครับ.. พวกเขาอยู่ตรงนั้น ผมขอถามอีกอย่างสิครับดาไซซัง นี่มันต้องกดปุ่มยังไงน่ะ–” ฮิโรสึยกเกมกดในมือขึ้นมาด้วยความงุนงงในขณะที่ดาไซเดินตรงไปยังที่ที่ฮิโรสึชี้เมื่อครู่
ศพทั้งสามถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ ทั้งหมดใส่แว่นดำ ร่างกายกำยำแข็งแรง จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ผิวของพวกเขาเปื่อยจากการลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าศพที่ถูกถ่วงน้ำอยู่ดี เลือดของพวกเขาไหลออกจนหมดตัวและถูกโยนลงทะเล ก่อนที่ร่างกายจะจมลงไปใต้ผืนน้ำ
”ฮืมมมม” ดาไซมองศพด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พวกเขายังไม่ทันจะชักปืนออกจากซองด้วยซ้ำ แย่จังเลยนะ อีกอย่าง.. กระสุนปืนทะลุร่างไป ถ้าดูจากจำนวนกระสุนแล้วพวกเขาคงถูกยิงด้วยปืนกลในระยะประชิด ถ้าเกิดศัตรูเข้ามาใกล้ถึงขนาดนี้โดยไม่ถูกสังเกตเห็น พวกมันคงมีฝีมือน่าดู ฉันเริ่มจะตื่นเต้นแล้วล่ะ แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ไหนเหรอ ?” ดาไซหันไปถามฮิโรสึ อีกฝ่ายมีท่าทีหมดหวังขณะจ้องมองเกมกดในมือ บนจอสี่เหลี่ยมมีภาพรถที่อยู่ในสภาพยับเยิน
“นี่มันน่าอับอายเกินไปแล้ว” ฮิโรสึพึมพำ
ดาไซมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ ราวกับลืมไปแล้วว่าฝากวิดิโอเกมเอาไว้
“ฮึโรสึซัง”  ดาไซหรี่ตาลง
“ถ้าคุณให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมมั่นใจว่า” ฮิโรสึพยายามอธิบายพร้อมบีบเกมกดในมือ
“ดีแล้วล่ะครับที่คุณจัดการกับลูกน้องเพราะปัญหายาเสพติด” จู่ๆดาไซก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ยาเสพติด–?” ใบหน้าของเขาซีดเผือด “ไม่ ไม่มีทาง ไม่มีใครเคยแตะของพวกนั้นหรอกครับ ลูกน้องของผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ พวกเขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่น
“ซองปืนที่เอวของคุณน่ะ––” ดาไซชี้ไปที่อีกฝ่าย ฮิโรสึรีบตะครุบซองปืนเอาไว้ทันที
“ฮิโรสึซังไม่ใช่พวกที่ชอบพกปืน ยิ่งกว่านั้นคุณค่อนข้างจะระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ คุณไม่มีทางพกมันไว้โดยบังเอิญแน่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าปืนนั่นไม่ใช่ของคุณ ดูจากสภาพแล้วมันคงเป็นของลูกน้องของคุณ ผมพูดถูกไหมครับ”
ฮิโรสึไม่ได้กล่าวอะไร ดาไซจึงพูดต่อ “ฮิโรสึซัง ในฐานะผู้บัญชาการ คุณมีลูกน้องใต้สังกัดอย่างน้อยๆก็ยี่สิบคน ทีแรกผมคิดว่าปืนนี่ถูกยืมมาจากพวกเขา แต่ว่าเช้านี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ปืน ผมเลยเดาว่าปืนนี่คงถูกยึดมาสินะครับ หลักฐานก็คือผงสีขาวนั่นกับรอยเลือดที่เปรอะอยู่ตรงด้ามปืน บนเสื้อผ้าของคุณไม่มีร่องรอยของการเสพแต่ตาของคุณมีรอยดำคล้ำ ถ้าจะให้สรุปคุณคงจับได้ว่าลูกน้องของคุณเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งเกี่ยวกับยาเสพติด คุณเลยยึดอาวุธของพวกเขาไว้เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรลงไปบ้าง”
“นะ นั่นน่ะ––” ฮิโรสึพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แต่ดาไซขัดจังหวะเขา
“ฮิโรสึซัง ลูกน้องของคุณฝ่าฝืนคำสั่งขององค์กร ถึงการค้ายาจะมีผลประโยชน์มาก แต่ยังไงซะมันก็มีแต่จะสร้างปัญหา พวกแผนกผู้ใช้พลังพิเศษ กองปราบปรามยาเสพติดแล้วก็คณะกรรมการสารวัตรทหารคงกำลังรอความสะเพร่าของพวกเราอยู่ แล้วก็รีบรายงานเรื่องที่ไปรัฐบาล แค่ยึดอาวุธของพวกเขามันคงจะไม่พอหรอกครับ”
“แต่
“ฮิโรสึซัง ผมไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของคุณเท่าไหร่ แต่ตำแหน่งผู้บริหารน่ะไม่ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเล่นๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บริหาร คุณจะมีผู้ใต้บังคับบัญชา การใช้พวกโง่เง่าไร้ประโยชน์เพื่อความสำเร็จมันไม่ใช่ผม ผมไม่เก็บพวกเปล่าประโยชน์ไว้.. คุณควรจัดการพวกเขานะครับ”
“ขอโทษจริงๆครับ” ฮิโรสึเอ่ยออกมาอย่างกล้ำกลืน
ในโลกของมาเฟีย คำว่า จัดการ มีความหมายเดียวกับโทษประหาร ถ้าหากผู้ใดที่ฝ่าฝืนคำสั่งหรือไม่เคารพหัวหน้าจะถูกมองว่าเป็นคนทรยศและพบชะตากรรมแบบเดียวกัน
ฮิโรสึไม่ได้เอ่ยอะไรต่อหลังจากยอมรับผิด สายตาของดาไซเย็นเยียบ ทุกวินาทีค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้าราวกับน้ำแข็งที่กำลังก่อตัว
“...แค่หลอกเล่นเฉยๆน่า! ” ดาไซระเบิดหัวเราะออกมาทันที
ฮิโรสึมองดาไซด้วยความสับสน
“เพราะว่าคุณไม่ได้จัดการลูกน้องทิ้งไปง่ายๆ หลายๆคนจึงเลือกที่จะติดตามคุณ ผมจะช่วยเก็บเรื่องนี้ให้แล้วกัน ฝากด้วยล่ะ” ดาไซพูดขณะเดินผ่านไป พร้อมตบบ่าชายวัยกลางคนเบาๆ
ฮิโรสึพยักหน้า เขายังคงนิ่งอึ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นจับคอของตนที่แห้งผาก
ผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของพอร์ทมาเฟีย ดาไซเป็นตำนานที่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายนอกหรือภายในพอร์ทมาเฟีย ความจริงก็ไม่เคยเล็ดลอดผ่านสายตาของดาไซไปได้
นอกเหนือจากนั้น ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าดาไซชอบหรือเกลียดอะไร อะไรคือสิ่งที่เขาเห็นชอบหรือไม่ต้องการ แม้แต่ฮิโรสึผู้อยู่ในพอร์ทมาเฟียมาร่วมสิบปีก็ไม่สามารถบอกได้
ตอนนี้ เขาจะไม่แปลกใจหากดาไซเลือกที่จะ ‘จัดการ’ กับตนเอง
“เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ พวกเรามีภาพผู้บุกรุกจากกล้องวงจรปิดรึเปล่า”
ภาพจากกล้องวงจรปิดถูกนำมาให้ดาไซตามคำสั่งของฮิโรสึ จากภาพ มีชายหลายคนที่บุกเข้ามาและขโมยอาวุธออกไปจากคลัง พวกนั้นแต่งตัวด้วยผ้าร่มสกปรก รอบศีรษะถูกพันไว้ด้วยถุงผ้าเก่าๆ ดูยังไงก็ไม่ต่างจากพวกคนจรจัด แต่––
“พวกเขาเป็นทหาร” ดาไซหัวเราะเบาๆขณะมองไปที่ภาพ “ดูแล้วคงได้รับการฝึกมาอย่างดีเลยล่ะ”
ดาไซมองภาพในมุมกลับกัน เขาสนใจคนพวกนั้นเป็นพิเศษ
“มองครั้งแรกอาจคิดว่าคนพวกนี้เป็นพวกจรจัด แต่พวกเขาเคลื่อนที่อย่างมีแบบแผนเพื่อไม่ให้มีช่องโหว่ในการป้องกัน นายเห็นรุ่นของปืนพวกนี้ไหม”
ดาไซชี้ไปที่ซองปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวของผู้บุกรุก
“มันเป็นรุ่นที่เก่ามาก อาจจะแก่กว่าผมด้วยซ้ำ กระบอกปืนสีเทาบาง น่าจะเป็นปืนรุ่นเก่าของยุโรป Grey Spectre”
“ฉันเห็นมันเมื่อวานนี้” ดาไซหรี่ตาลง “โจรขโมยอาวุธพวกนี้เคยจู่โจมเรามาแล้ว หมายความว่านี่เป็นกลลวง เริ่มจะน่าสนุกแล้วแฮะ คนพวกนี้น่าสนใจกว่าที่คิดเอาซะอีก”
ดาไซถือรูปเอาไว้และหันหลังให้คนที่เหลือ เขาเริ่มเดินไปมาและใช้ความคิด ปลายนิ้วโป้งแตะลงบนริมฝีปากพร้อมพึมพำกับตัวเอง
“หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับของผิดกฏหมายที่พวกเราได้มารั่วไหลออกไปงั้นเหรอ เป็นเพราะพวกเราไม่ได้ให้ความสนใจกับความปลอดภัยของคลังอาวุธเท่าไหร่ เราก็เลยถูกปล้นอาวุธจำนวนมากไป– เพื่อเอาไปขายอย่างนั้นเหรอ ถ้าจะทำแบบนั้นมันไม่จำเป็นต้องเป็นอาวุธก็ได้นี่ อ๋า–– เข้าใจล่ะ!
ดาไซจมลงในห้วงความคิดของตัวเอง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่รอบตัวได้แต่รอเขาอย่างเงียบๆ
“....”
ลูกน้องของฮิโรสึยืนอยู่รอบๆและมองผู้บริหารอายุน้อยใช้ความคิด
“ฉันรู้สึก..”
ดาไซเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปซักพัก
“คอแห้งจังแฮะ”
“ผมจะให้คนไปซื้อเครื่องดื่มมาให้” ฮิโรสึหันไปหาลูกน้องและออกคำสั่ง ชายในชุดดำคนนึงวิ่งออกไปทันที
“ฉันขอกาแฟเย็นเพิ่มนมนะ” ดาไซร้องบอกชายคนนั้น “ไม่ต้องใส่น้ำแข็งล่ะ ถ้าเกิดมีแบบดีแคฟก็เอานั่นล่ะ ใส่น้ำตาลสองช้อนเลย!”
ขณะฟังชายในชุดดำเอ่ยทวนสิ่งที่สั่ง ดาไซเอ่ยขึ้นมา “ฮิโรสึซัง คลังอาวุธที่พวกโจรบุกเข้ามาครั้งนี้ไม่ใช่คลังธรรมดา นี่เป็นหนึ่งในสามคลังอาวุธของพอร์ทมาเฟียที่ไว้ใช้เก็บอาวุธฉุกเฉิน ความปลอดภัยของที่นี่สูงมาก ถ้ามีคนที่ไม่ได้รับอนุญาตหลุดเข้ามา เสียงสัญญาณเตือนก็จะดัง นอกจากที่พวกนั้นจะทำลายระบบรักษาความปลอดภัยของเราได้แล้ว มันยังปลดล็อคเข้ามาด้วยรหัสที่ถูกต้อง มีแค่พวกผู้บริหารและสมาชิกระดับสูงเท่านั้นที่รู้โค้ดนี้ คำถามก็คือ ศัตรูรู้รหัสที่มีความสำคัญขนาดนั้นได้ยังไง”
ฮิโรสึมีสีหน้าดุดัน การที่จะได้คำตอบคือต้องสอบสวนสมาชิกขององค์กรเพื่อให้พวกเขาคายความลับ ใช้พลังพิเศษเพื่อจัดการหรือไม่ก็ค้นหาเอาจากพวกผู้ทรยศที่แฝงตัวอยู่ภายใน
ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ผลลัพธ์ก็เลวร้ายพอกัน
“พื้นที่ตรงนี้จะกลายเป็นสนามรบ” ดาไซหันไปมองตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและหัวเราะอย่างแผ่วเบา “ฉันนึกออกเลยละ ถึงเสาไฟที่ลุกโชนขึ้นไปบนฟ้า แผดเผาทุกอย่างจนเหลือแต่เถ้าถ่าน”
“จะมีทางไหนที่เราจะได้ข้อมูลเพิ่มบ้างรึเปล่าครับ”
“ลูกน้องของฉันวางแผนสอบสวนนักโทษอยู่ แต่น่าเสียดายที่มันกลืนยาพิษที่ซ่อนอยู่ที่ฟันและชิงฆ่าตัวตายไปซะก่อน สิ่งเดียวที่เราได้มาคือชื่อของศัตรู”
สายตาของดาไซที่จ้องมองมายังฮิโรสึเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เช่นเดียวกับความหนักอึ้งของคำพูดที่กำลังจะตามมา ถ้าหากว่าคนธรรมดาถูกจ้องมองด้วยสายตาเช่นนี้อาจจะต้องจมปลักกับฝันร้ายไปอีกหลายวัน ดวงตาคมกริบมีสัญญาณของจิตสังหารและความรุนแรงที่กำลังจะตามมา

“นักลอกเลียนแบบ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น